จัดสวนมาหลายแบบ เปลี่ยนบรรยากาศ โยกย้ายต้นไม้และอุปกรณ์ไปทางนั้นทางนี้
ตามประสาคนชอบสวน ชอบต้นไม้
ตามประสาคนชอบสวน ชอบต้นไม้
ในรอบนี้มาลงตัวที่สวนมอสค่ะ
ตอนที่ยังไม่ลงมือ ก็คิดเอาเองว่า ส่วนมอสคงไม่เหมาะกับบ้านเรา
เพราะตรงที่จะจัด แดดส่องตลอดตั้งแต่เช้ายันเย็น
อากาศก็ไม่เย็น ไม่เหมือนทางเชียงใหม่ ปลูกไปก็คงตายเปล่า
แต่ไปเดินซื้อต้นไม้ทีไร ก็อดไม่ได้ที่จะแวะไปร้านขายหินฟองน้ำ
ที่เค้าจัดเป็นสวนบนหินเอาไว้โชว์ให้คนชอบต้นไม้น้ำลายไหล
สุดท้ายก็ทนความเย้ายวนของใบเล็กละเอียดสีเขียวของเค้าไม่ไหว
เริ่มจากซื้อหินฟองน้ำก้อนใหญ่ในราคาไม่แพงมาจากสนามหลวง 2
ราคาก็แล้วแต่ขนาด มีตั้งแต่ 80 บาท ไปจนถึง 300 บาท
ถ้าจะเอาใหญ่ ๆ สวย ๆ 500 ก็มี
เพราะตรงที่จะจัด แดดส่องตลอดตั้งแต่เช้ายันเย็น
อากาศก็ไม่เย็น ไม่เหมือนทางเชียงใหม่ ปลูกไปก็คงตายเปล่า
แต่ไปเดินซื้อต้นไม้ทีไร ก็อดไม่ได้ที่จะแวะไปร้านขายหินฟองน้ำ
ที่เค้าจัดเป็นสวนบนหินเอาไว้โชว์ให้คนชอบต้นไม้น้ำลายไหล
สุดท้ายก็ทนความเย้ายวนของใบเล็กละเอียดสีเขียวของเค้าไม่ไหว
เริ่มจากซื้อหินฟองน้ำก้อนใหญ่ในราคาไม่แพงมาจากสนามหลวง 2
ราคาก็แล้วแต่ขนาด มีตั้งแต่ 80 บาท ไปจนถึง 300 บาท
ถ้าจะเอาใหญ่ ๆ สวย ๆ 500 ก็มี
อย่าลืมซื้อมอสน้ำกับดินเหนียวมาด้วย
ต้องบอกเค้าว่า "มอสน้ำ" ค่ะ
มอสดินจะขนสั้นกว่า (พูดเหมือนสุนัขพันธ์ขนสั้นเลยอ่ะ)
เอามาถึงบ้าน ถ้าเป็นก้อนใหญ่ก็ต้องหาที่เหมาะ ๆ สำหรับวาง
คิดและออกแบบไว้คร่าว ๆ ก่อน
เมื่อหาที่วางที่จะไม่เปลี่ยนใจได้แล้ว
ก็รดน้ำหินให้ชุ่ม
หินฟองน้ำ ตอนแห้ง ๆ จะค่อนข้างเบา ไม่หนักมาก
แต่พอรดน้ำชุ่มเท่านั้น อย่าได้โยกย้ายไปไหนค่ะ ไม่ไหว
จึงเป็นเหตุที่แนะนำให้หาที่วางที่ถูกใจ
ก่อนจะลงมือจัด
(รูปถ่ายมุมเดียวกัน แต่คนละวันกันค่ะ สังเกตุจากภาพล่างมีต้นมะสังขึ้นอยู่กับต้นมอสด้วย)
การจัดก็ให้มีระดับ คือจัดสูงต่ำ ลดหลั่นกันไป
หินก้อนใหญ่ในรูปก็ไม่ได้สูงขนาดนั้นนะคะ
แต่ใช้ทำฐานให้เค้า คือเอาไม้มาวางด้านล่าง
วิธีที่ดีกว่านี้ น่าจะใช้อิฐมอญมากกว่า
เพราะอิฐมอญจะดูดและส่งผ่านความชื้นไปให้หินฟองน้ำได้มากกว่า
แต่เป็นไม้ จะมีช่องว่างระหว่างไม้ที่วางซ้อนกันอยู่
แน่ใจแล้ว ก็เอาดินเหนียวมาพอก ๆ บนผิวหิน
ตอนพอกให้ผสมน้ำไปด้วย
ใช้ 'เกรียง' จะง่ายกว่าใช้มือค่ะ
เพราะอาจจะเจ็บมือ เนื่องจากหินมันคม
จากนั้นก็เอามอสน้ำมาแปะ ๆ
ฉีดน้ำบ้าง รดน้ำบ้าง เอาให้ชุ่ีมค่ะ
มือใหม่
แรก ๆ ก็หวั่น ๆ ลุ้น ๆ
เพราะยังไม่รู้ใจกัน
ความจริงไม่รู้หรอกค่ะว่าต้องใช้ดินเหนียวหรือเปล่า
คิดเอาเองว่า ถ้าแปะไปบนหิน เค้าจะกินอะไร
ไม่มีสารอาหาร เดี๋ยวตาย
ตอนหลังก็เลยใช้เป็นหลักปฏิบัติ
คือต้องพอกดินเหนียวก่อน
ไม่นานนักก็เห็นพัฒนาการ
อันนี้แหละ ทำให้คนจัดสวนมีกำลังใจ
ถ้ามันเหี่ยวแห้งตายไป ก็คงเลิก
ไปจัดสวนต้นไม้ธรรมดาแทน
ที่นี้พอรู้วิธีปลูก วิธีดูแลและเชื่อว่าเราปลูกได้ ไม่ตาย
ก็เริ่มลามปามไปยังหิน โอ่ง กระถาง แม้กระทั่งเอาอิฐมอญมาวางบนพื้นแฉะ ๆ
และเอามอสแปะ แปะ ลงไป แค่นี้มันก็ขึ้นครึ้มเขียว
น่าชืนใจ
พอสวนเริ่มมีความชื้น ก็เริ่มอยากเอาเฟิร์นก้านดำที่รักนักรักหนา
มาลองปลูกดูบ้าง
หลังจากที่ซื้อมาเท่าไหร่ อยู่ได้ไม่นานก็ตายหมด
ตอนนี้ งามอย่างที่เห็นในภาพค่ะ
พวกบีโกเนียกับพรมญี่ปุ่น ก็อยู่ร่วมกันกับมอสได้ เพราะชอบชื้นเหมือนกัน
องค์ประกอบสวนอื่น ๆ เป็นของที่มีอยู่
เพราะเป็นคนชอบจัดสวนอยู่แล้ว
ก็เปลี่ยนแปลงโยกย้าย ให้มันได้บรรยากาศสวนมอส
มีเพิ่มไม้พุ่มขนาดกลาง เข้ามาในสวนบ้าง ให้สวนร่มครึ้ง
เช่นหูกระจง !!
เช่นหูกระจง !!
คนอ่านกำลังจะทักซิคะ ว่าหูกระจงเหรอเล็ก
บอนเอาไว้ในกระถางค่ะ ไม่ให้มันใหญ่โตมาก
แล้วก็มีต้นมหัศจรรย์ เป็นไม้พุ่มขนาดไม่ใหญ่
เหมาะกับสวนกระทัดรัดของอีชั้นค่า
ความจริงถ้าทำน้ำหยดให้สวนมีความชื้นตลอด
น่าจะดีกว่านี้
อีชั้นใช้สแลนขึง 2 ชั้น ด้านบนหลังคา
แล้วก็เอาร่มมากางให้ด้วย
เพราะเราไม่มีต้นไม้ใหญ่
รดน้ำเช้าเย็นค่ะ
แต่ต้องระวังไม่ให้ไม้อื่นที่อยู่ใกล้กัน ฉ่ำน้ำไปด้วย
เพราะไม้อื่นเช่นเฟิร์นก้านดำ บีโกเนีย
ชอบชื้น แต่ไม่ชอบแฉะ
แต่มอสชอบแฉะค่ะ
ลองดูค่ะ ไม่ยากอย่างที่คิด
ความจริงถ้าทำน้ำหยดให้สวนมีความชื้นตลอด
น่าจะดีกว่านี้
อีชั้นใช้สแลนขึง 2 ชั้น ด้านบนหลังคา
แล้วก็เอาร่มมากางให้ด้วย
เพราะเราไม่มีต้นไม้ใหญ่
รดน้ำเช้าเย็นค่ะ
แต่ต้องระวังไม่ให้ไม้อื่นที่อยู่ใกล้กัน ฉ่ำน้ำไปด้วย
เพราะไม้อื่นเช่นเฟิร์นก้านดำ บีโกเนีย
ชอบชื้น แต่ไม่ชอบแฉะ
แต่มอสชอบแฉะค่ะ
ลองดูค่ะ ไม่ยากอย่างที่คิด